วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 4 วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2559 เวลา 8:30-11:30 น.

สรุปความรู้ที่ได้รับ

เกมการสื่อสารแสนสนุก
(เกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร)
มีทั้งหมด 4 เกมด้วยกัน คือ 
เกม ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร กับใคร
เกมสื่อความหมาย
เกมพรายกระซิบ
 เกมทายคำ

************************************************
รูปภาพประกอบ


เกมสื่อความหมาย
ออกไปเล่นเป็นกลุ่ม โดยตัวแทนในกลุ่ม 1 คนไปฟังคำที่อาจารย์บอก จากนั้นก็ ไปท่าทางโดยห้ามพูดออกเสียง ให้เพื่อนคนที่ 2 ดู  คนที่ 2 ทำให้คนที่ 3 ดู ทำต่อกันไปเรื่อยจนถึงคนสุดท้าย คนสุดท้ายดูท่าทางของเพื่อน และทายว่าคำที่อาจารย์บอกมานั้นคืออะไร

เกมสื่อความหมาย


เกมทายคำ
ดังภาพ จะเล่นเกมนี้เป็นกลุ่ม ให้ตัวแทน 2 คนออกไป คนนึงถือป้ายคำใบ้อยู่ด้านหลัง อีกคนทายคำใบ้อยู่ด้านหน้า จากนั้นก็ให้เพื่อนในกลุ่มสลับกันออกมาทำท่าทาง เพื่นให้คนทาย ทายให้ได้เยอะที่สุด


เกมพรายกระซิบ
เป็นเกมที่คล้ายกับเกมสื่อความหมายแต่เปลี่ยนจากการใช้ท่าทาง มาเป็นการพูดกระซิบแทน จากนั้นให้คนสุดท้ายทายว่าคนแรกนั้นพูดว่าอะไร ปล. วุ่นวายสุดคำหล่นหายเยอะมาก ซื้อคำมาเพิ่มก็เยอะเช่นกัน 


เกม ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร กับใคร
แจกกระดาษให้สมาชิกในกลุ่ม คนละแผ่นจากนั้นให้แต่งเป็นประโยค ของแต่ละคนว่า  ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่าไร กับใคร จากนั้นก็ให้อ่านแบบนี้ คนที่ 1 อ่านใคร คนที่ 2 อ่านทำอะไร  คนที่ 3อ่านที่ไหน คนที่ 4 อ่านอย่างไร คนที่ 5 อ่าน กับใคร (อ่านสลับกันไป)

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
 สรุปเนื้อหา
การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
  • ความหมายของการสื่อสาร  >  การสื่อสาร คือ กระบวนการ การส่งข่าวสาร ข้อมูล จากผู้ส่งข่าวไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ  เป็นการติด่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิด ทัศนคติ ทักษะ และประสบการณ์ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารให้มีความเข้าใจที่ตรงกันเพื่อนำไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความสุข
  • ความสำคัญของการสื่อสาร 
  1. ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการที่เกิดขึ้นในสังคม
  2. ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
  3. ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
  4. ทำให้เกิดภาพความพึงพอใจ
  5. ช่วยในการพัฒนาอัตโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต

  • รูปแบบการสื่อสาร



  • องค์ประกอบของการสื่อสาร  
  1. ผู้ส่งข่าวสาร
  2. ข้อมูลข่าวสา
  3. รสื่อช่องทางในการสื่อสาร
  4. ผู้รับข่าวสาร
  5. ความเข้าใจและการตอบสนอง


  • ผู้รับสารและผู้ส่งสาร 
  • สื่อ  > เป็นการมช้วิธีพู เขียน หรือนำเสอนในรูปแบบต่างๆ เช่นการใช้รูปภาพ รมทั้งเทคดนโลยีต่างๆโดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียนอยู่ คลื่นวิทยุโทรทัศน์ ตัวกลาดเหล่านี้เรียกว่สื่อ โดยการสื่อสารนั้นสามารถใช้สื่อหลายๆอย่างได้พร้อมๆกัน เช่น การเรียนการสอน ต้องใช้ทั้งหนังสือ กระดาน ภาพ
  • สาร > เป็นเรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริง ข้อแนะนำ การล้อเลียน ความปรารถนาดี ความห่วงใย มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้ การสื่อสารจะเกิดขึ้นตามกาลเทศะ และสภาพแวดล้อมต่างๆในสังคม
  • วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร  
  1. เพื่อแจ้งให้ทราบ เป็นการที่ผู้ส่งสารจะแจ้ง หรือบอกกล่าวข่าวสารข้อมูล ความต้องการของตนให้ผู้รัทราบ
  2. เพื่อสอนหรือให้การศึกษา
  3. เพื่อสร้างความพิงพอใจหรือให้ความบันเทิง
  4. เพื่อเสนอหรือชักจูงใจมุ่งเน้นให้ผู้รับสารคล้อยตาม
  • ประเภทของการสื่อสาร  > จำแนกได้ 3 ประการดังนี้ 
  1. จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร มี 2 ประเภทคือ การสื่อสารทางเดียว และ การสื่อสารสองทาง
  2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก แบ่งออกเป็น 2 การสื่อสาร คือ การสื่อสารเชิงวัจนะเป็นการสื่อสารโดยการพูด และ การสื่อสารเชิงอวัจนะเป็นการสื่อสารโดยใช้รหัสอย่างอื่น เช่นการแสดงออกทางท่าทาง เป็นต้น
  3. จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะใหญ่ คือ  การสื่อสารส่วนบุคคล การสื่อสารระหว่างบุคคล และการสื่อสารมวลชน
  • ธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้ปกครองเด็กปฐมวัย 
  1. เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
  2. เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
  3. มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
  4. เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
  5. เรียนรู้ได้ดีในการบรรยาที่วิชาการน้อยที่สุด
  6. ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน
  7. เรียนรู้ได้ดีจากสื่ออุปกรณ์ที่หลากหลาย
  • พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง 
  1. ความพร้อม ในด้านร่างกายจอตใจที่จะเรียรรู้
  2. ความต้องการให้ชีวิตดำเนอนไปอย่างมีความสุข
  3. อารมณ์และการปรับตัว มี อารมณ์ บวก และลบ
  4. กาจจูงใจกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้
  5. การเสริมแรงสร้างความพึงพอใจในหลังการเรียนรู้
  6. ทัศนคติและความสนใจ การจัดสภาพแวดล้อม ช่วงเวลาในการจัดการเรียนรู้
  7. ความสามรถของบุคคล


  • อุปสรรคในการสื่อสาร
  1. ผู้ส่งข่าวสารขาดทักษะที่ดี
  2. ข้อมูมากจนเกินไป
  3. ได้ข่าวไม่คบสื่อผิดความหมาย
  4. ข้อมูลส่งผ่านหลายข้านตอน
  5. เลือกใช้เครื่อมือไม่เหมาะสม
  6. รีบเร่งด่วนสรุปจนเกินไป
  7. ผู้รับข่าวไม่ทบทวนหรือสอบถามเมื่อสงสัย
  8. อารมณ์ของผู้รับและผู้ส่งไม่ปกติ
  9. ผู้ส่งผู้รับไม่ฟังความคิดผู้อื่น
  • 7 C กับการสื่อสารที่ดี
  • คุณธรรมในการสื่อสาร   >  เป็นความดีงานที่อยู่ในตัวบุคคล ประกอบไปด้วยเหตุผลที่ดีของแต่ละบุคคล เป็นการเกิดจากการปลูกฝีงตั้งแต่เด็ก เกิดจากการได้ห็นได้ยิน ได้อ่าน การได้เห็นพฤติกรรมของคนอื่น ความมีสัจจะไม่ล่วงละเมิดกัน ความรักเคารพปราถนาดีต่อกัน รับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำ และใช้วาจาเรียบร้อยตามคตินิยมสังคม
  • วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง > ต้องศึกษาและพยายามเข้าใจกับผู้ปกครอง พยายามเรียนรู้ความต้องการ และตอบสนองตามเหมาะสม พูดคุยพบปะกับผู้ปกครองในดอกาศต่างๆ เข้ากิจกรรมกับผู้ปกครอง ทำตนให้กลมกลืนกับผู้ปกครอง มีท่าทางเป็นมิตรอยู่เสมอ และเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรม
........................................................................................................................

คำถามท้ายบท
1. จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ การสื่อสารหมายถึง กระบวนการ การส่งข่าวสาร ข้อมูล จากผู้ส่งข่าวไปยังผู้รับข่าวสาร โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ เป็นการติด่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล มีความสำคัญคือทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการที่เกิดขึ้นในสังคมทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
2. การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ   ทำให้ผู้ปกครองนั้นเข้าใจในการเรียนการสอนของครูและให้ความร่วมมือในการพัฒนาเด็กไปในแนวทางเดียวกัน
3. รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นในรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ การสื่อสารในรูปแบบของลาล์สเวล เพราะเป็นการสื่อสาร ที่มีขั้นตอน 5 ขั้นตอนคือ ผู้รับสาร สาร สื่อที่ใช้เป็นช่องทาง ผู้รับ และผล เป็นการสื่อสารที่ได้ผลตอบรับกลับมา ยกตัวอย่างเช่น ครูมีการจัดงานที่โรงเรียน ต้องการให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในงาน ได้มีการส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มผู้ปกครอง ในวันงานผู้ปกครองได้มามีส่วนร่วมในงาน เป็นต้น
4. ธรรมชาติของการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ ธรรมชาติของการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะ เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก

เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์ มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ เรียนรู้ได้ดีในการบรรยาที่วิชาการน้อยที่สุด เรียนรู้ต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน เรียนรู้ได้ดีจากสื่ออุปกรณ์ที่หลากหลาย
5. ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
ตอบ ความพร้อม ความต้องการ อารมณ์การปรับตัว การจูงใจ แรงเสริม ทัศนคติความสนใจ และความถนัด



* * * * * * * * * * * * *  * * ****************

การนำความรู้ปประยุกต์ใช้

  • ได้เรียนรู้วิธีการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ปกครองได้ เพราะในชีวิตจริงๆนั้นเราจพต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กอยู่แล้ว สามารถนำไปปรับใช้ได้ 
  • ในชีวิตประจำวันของเรานั้นต้องมีการติดต่อสื่อสารกันกับคนอื่นๆทุกวันอยู่แล้วการนำความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อให้การสื่อสารจองเรานั้นดีขึ้น
  • เกมในวันนี้สามารถนำไปเป็นกิจกรรมในการสอนได้ในอนาคตแต่เราอาจจะต้องปรับให้เหมาะกับเด็กในวัยนั้นๆ เป็นเกมที่ใช้ทักษะในการสื่อสารในหลายๆรูปแบบและสนุกด้วย

การประเมิน

ตนเอง    =  เล่นเกมสนุกให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์ตั้งใจจะอธิบาย บายครั้งก็สติหลุดๆไปบ้างแต่ก็กลับมาได้อีกครั้ง
เพื่อน       =  เพื่อนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ตั้งใจเรีย
อาจารย์ =  อาจารย์เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีในการสอน ตรงต่อเวลา มีสื่อในการสอน อธิบายและยกตัวอย่างเมื่อนักศึกษาไม่เข้าใจ



E     N     D














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น